ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Technology and Innovation Center : DTIC)

  •     Digital Citizenship คือ พลเมืองผู้ใช้งานสื่อดิจิทัล และสื่อสังคมออนไลน์ที่เข้าใจบรรทัดฐานของการปฏิบัติตัวให้เหมาะสม มีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม มีความเห็นอกเห็นใจและเคารพผู้อื่น ในการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารในยุคดิจิทัล.

>> เรียนรู้ 8 ทักษะ ความเป็นพลเมืองดิจิทัล ปรับตัวสู่ชิวิตวิถีใหม่ <<

  •        ก่อนหน้าจะเกิดวิกฤตการณ์โควิด19 หลายๆคนก็อาจจะยังไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์มากเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเกิดวิกฤตการณ์โควิด19 เราทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่กับรูปแบบที่เรียกว่า New Normal ชีวิตวิถีใหม่ ซึ่งทำให้พวกเราทุกคนต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์ การสั่งอาหาร หรือแม้แต่การเข้าสู่สังคมไร้เงินสดด้วบบริการ e-payment ต่างๆ อีกทั้งยังทำให้เราได้มีโอกาสพบปะผู้คนบนโลกออนไลน์มากขึ้น และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องมีทักษะความเป็นพลเมืองดิจิทัล 8 ทักษะที่ทุกคนต้องมี เพื่อให้อยู่ในโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย มาดูกันเลยว่ามีทักษะอะไรบ้างที่จะต้องเรียนรู้กัน…

1. Digital identity : อัตลักษณ์ในโลกดิจิตอล

  •      ความสามารถในการสร้างและจัดการเอกลักษณ์และชื่อเสียงบนออนไลน์ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในยุคดิจิทัล จะต้องมีทักษะในการสร้างบริหารอัตลักษณ์และชื่อเสียงในโลกออน ไลน์ ของตัวเองให้เป็น ซึ่งรวมถึงการตระหนักถึงบุคคลออนไลน์และการจัดการผลกระทบกับตัวตนในโลกออนไลน์ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวด้วย เช่น รู้ว่าอะไรควรโพสต์ ควรแชร์ ควรแสดงความคิดเห็น เป็นต้น  

2. Digital use : การใช้เครื่องมือและสื่อดิจิตอล

  •  ความสามารถในการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลและในยุคดิจิทัลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยสามารถสร้างสมดุลให้กับชีวิตออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างดี ไม่ใช่ดังที่เห็นในปัจจุบัน คือ หลายคนถูกเทคโนโลยีใช้ ไม่ใช่ใช้เทคโนโลยี

3. Digital safety : การอยู่ในโลกดิจิตอลอย่างปลอดภัย

  •      ความสามารถในการจัดการความเสี่ยงทางออนไลน์ เช่น การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต (cyber-bullying) การเหยียดผิว-เหยียดชนชั้น รวมไปถึงเนื้อหาต่างๆ ที่สุ่มเสี่ยง เช่น เนื้อหาที่มีความรุนแรง โป๊เปลือย ลามก หยาบคายได้

4. Digital security : ความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์

  •       ความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ (เช่น การแฮ็ก การหลอกลวง มัลแวร์) เพื่อทำความเข้าใจแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและการใช้เครื่องมือความปลอดภัยที่เหมาะสมสำหรับการปกป้องข้อมูล 

5. Digital emotional intelligence

  •       ความสามารถในการเอาใจใส่และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นทางออนไลน์

6. Digital communication

  •        ความสามารถในการสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสื่อ

7. Digital literacy

  •         ความสามารถในการค้นหาประเมินผลใช้แบ่งปันและสร้างเนื้อหาตลอดจนความสามารถในการคิดคำนวณ 

8. Digital rights

  •        ความสามารถในการทำความเข้าใจและรักษาสิทธิส่วนบุคคลและกฎหมายรวมถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวทรัพย์สินทางปัญญาเสรีภาพในการพูดและการป้องกันจากคำพูดแสดงความเกลียดชัง 
ที่มา :https://icdl.online.th/content/2202/

DTIC : TRAINING

คลังความรู้ Online

เทคโนโลยีดิจิทัลที่น่าสนใจ

AI Agent เป็นระบบ AI อัจฉริยะเหมือนผู้ช่วยมนุษย์ ที่ทำงานได้หลายอย่างอย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีมนุษย์เข้ามาแทรกแซง สามารถโต้ตอบผ่านข้อความและรับข้อมูลจากหลายช่องทาง เช่น เสียง วิดีโอ และตัดสินใจได้ด้วยตนเอง โดยจะเลือกการดำเนินงานที่ดีที่สุดที่จำเป็นต้องทำอย่างอิสระด้วยตนเอง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่มนุษย์เป็นผู้กำหนด ตัวอย่างเช่น AI Agent ของศูนย์ติดต่อที่ต้องการแก้ไขข้อซักถามของลูกค้า AI Agent จะถามคำถามต่าง ๆ กับลูกค้าโดยอัตโนมัติ ค้นหาข้อมูลในเอกสารภายใน และตอบกลับพร้อมวิธีแก้ไขปัญหา หลังจากนั้น AI Agent จะพิจารณาการตอบสนองของลูกค้า ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าจะสามารถแก้ไขคำถามนั้นเองหรือส่งต่อให้กับมนุษย์เพื่อดำเนินการต่อหรือไม่

Metaverse คือ เทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวไปอีกขั้นจากปัจจุบันที่จะช่วยผสานโลกเสมือนจริงคู่ขนานไปกับโลกจริงทางกายภาพ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างตัวตนและทำแทบทุกกิจกรรมได้ในโลกเสมือนแบบ 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศหรือรับชมมหกรรมกีฬา/คอนเสิร์ตระดับโลกได้โดยไม่ต้องเดินทาง

9 เว็บไซต์ แหล่งการเรียนรู้ออนไลน์ ที่หาไม่ได้จากในห้องเรียน

1. Khan Academy

เว็บไซต์ Khan Academy เป็นเว็บที่รวบรวมข้อมูลการเรียนรู้ไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ ฯลฯ โดยจะใช้วิดีโอเป็นสื่อในการสอน แถบยังมีการเก็บสถิติการเรียนรู้ของเราไว้อีกด้วย (www.khanacademy.org)

2. DataCamp

ด้วยความที่เครือข่ายข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทำให้เว็บไซต์ Data Camp เป็นสื่อในการเรียนรู้เกี่ยวกับการเข้ารหัสของข้อมูลประเภทต่างๆ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าข้อมูลในแต่ละชนิดมีวิธีการเข้ารหัสอย่างไร (www.datacamp.com)

3. Quora

เป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าไปตั้งคำถามที่ตนสงสัยหรืออยากรู้เกี่ยวกับอะไรก้สามารถเข้าไปตั้งคำถามได้เลย ซึ่งจะมีผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เข้ามาช่วยตอบคำถามเหล่านั้นให้ แต่ถ้าเราไม่กล้าถามก็ให้ลองดูกระทู้ก่อนหน้าเราก่อนก็ได้ เพราะอาจจะมีคนถามในสิ่งที่เราอยากรู้ไปก่อนแล้ว ก็อาจจะเป็นไปได้ (www.quora.com/)

4. TED-Ed

เว็บ TED-Ed เป็นแหล่งรวบรวมบทเรียนเอาไว้มากมาย และยังรวมถึงบทเรียนที่เคยได้รับรางวัลต่างๆ ก็ถูกนำมาไว้ที่นี่หมด นอกจากนี้เรายังสามารถอัพโหลดวิดีโอของตนเองลงไปในเว็บได้ เพื่อเป็นการตั้งประเด็นให้คนมาพูดคุยกันได้อีกด้วย (ed.ted.com)

5. Instructables

เว็บนี้จะเน้นวิดีโอเป็นสื่อในการเรียนรู้ในหัวข้อที่ไร้ขอบเขต ที่จะให้เราเพลิดเพลินไปกับการเรียนและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าใครมีความรู้ใหม่ๆ แล้วอยากจะแชร์ก็สามารถโพสต์วิดีโอของตนเองลงในเว็บไซต์ก็ได้เหมือนกัน (www.instructables.com)

6. Project Gutenberg

สำหรับเว็บนี้เปรียบเสมือนห้องสมุดออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่มี E-Book ฟรีๆ ให้เราได้ดาวน์โหลดกันมากกว่า 50,000 เล่ม และถ้าใครอยากจะลองเขียนหนังสือดูบ้างก็สามารถทำได้ โดยการสร้าง E-Book ขึ้นมาได้ในเว็บ และก็สามารถแชร์ให้กับผู้อื่นได้อ่านด้วยเช่นกัน (www.gutenberg.org)

7. Udemy

Udemy เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมบทเรียนเอาไว้มากกว่า 30,000 บทเรียนด้วยกัน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปตามหัวข้อวิชานั้นๆ และบทเรียนในเว็บนี้ยังมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลาโดยผู้เชี่ยวชาญในแขนงวิชาต่างๆ (www.udemy.com)

8. Digital Photography School

เว็บนี้เหมาะมากๆ เลยกับคนที่ชื่นชอบในการถ่ายรูป เพราะไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้น หรือมีสกิลในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม เว็บไซต์ Digital Photography School จะช่วยพัฒนาทักษะในการถ่ายรูปของคุณได้เป็นอย่างดี โดยมีทั้งบทความดีๆ และพื้นที่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายรูปมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบกรณ์กันได้อย่างเต็มที่ (digital-photography-school.com)

9. Coursera

เว็บไซต์นี้มีบทเรียนมากกว่า 800 บทเรียน ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับพวกวิศวกรรมทางการเงิน ประวัติศาสตร์ เทคโนโลยี และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะช่วยทำให้เราได้พัฒนาตัวเองได้ในหลายๆ ด้าน (www.coursera.org)

เว็บไซต์ “สุดยอดแหล่งเรียนรู้ออนไลน์” ให้คุณได้เข้าไปใช้แบบฟรีๆ